ดูบอล/ข่าวอัพเดท

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

บรูซเซ็งแมวดำหลังเดี้ยงระนาวรับมือผีแดง

--
บรูซเซ็งแมวดำหลังเดี้ยงระนาวรับมือผีแดง สตีฟ บรูซ กุนซือซันเดอร์แลนด์ เผยว่ามีปัญหาแนวรับในเกมรับมือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสาร์นี้ เมื่อผู้เล่นทั้ง แอนทอน เฟอร์ดินานด์, จอห์น เมนซาห์ และ คีแรน ริชาร์ดสัน ไม่น่าพร้อมลงเล่น โดยจะรอประเมินวันศุกร์นี้ก่อนตัดสินใจ
สตีฟ บรูซ ผู้จัดการทีมซันเดอร์แลนด์ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความกลัดกลุ้มใจก่อนมีโปรแกรมพาลูกทีม "แมวดำ" เปิดสนาม สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ทำศึกกับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่ร่วมลีก วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคมนี้ หลังจากนักเตะหลักในแนวรับนัดกันเดี้ยง เท่านั้นไม่พอ ยังจะหมดสิทธิ์ใช้งาน แดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าดาวรุ่งชาวผู้ดี ตามเงื่อนไขสัญญายืมตัวจากทีม "เร้ด เดวิลส์" ด้วย

     บรูซซี่ อดีตกองหลังกัปตันทีม "ปีศาจแดง" ยุคทศวรรษ 90 คาดว่าจะไม่ได้ใช้งานกองหลัง 3 คนคือ แอนทอน เฟอร์ดินานด์, จอห์น เมนซาห์ และ คีแรน ริชาร์ดสัน ในเกมสำคัญนัดนี้ที่พวกเขาหวังว่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดียามทำศึกกับทีมหัวตาราง หลังจาก 5 แต้มจาก 7 แต้มที่ทำได้ในฤดูกาลนี้ มาจากการเจอทีมบิ๊กเนมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1-0), อาร์เซน่อล (1-1) และ ลิเวอร์พูล (2-2)  

     "ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูดอะไร เราต้องรอวันศุกร์ก่อนเพื่อดูว่าเราอยู่ตรงจุดไหน ผมคิดว่า เมนซาห์, ริชาร์ดสัน และ เฟอร์ดินานด์ ต่างยังไม่ชัวร์ทั้งหมด ดูท่าทางเกมนี้จะมาเร็วเกินไปสำหรับพวกเขา" บรูซ กล่าว และเอ่ยถึง เวลเบ็ค ที่ย้ายมาเล่นได้ดีพอสมควร แต่จะอดเล่นเกมนี้ว่า "เราจะคิดถึง แดนนี่ เขาเล่นดี เขามาทำให้เกมทางซ้ายของเรามีอะไรขึ้นมา ผมประทับใจฟอร์มของเขามาก"

เครดิต siamsport

เฟล็ทช์ฟันธงชิชาริโต้ยิ่งใหญ่กับผี

เฟล็ทช์ฟันธงชิชาริโต้ยิ่งใหญ่กับผีดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ จอมทัพ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ดาวยิงชาวเม็กซิกัน จะสร้างชื่อโด่งดังจนเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร หลังปลื้มฝีเท้าในเกมยูฟ่า แขมเปี้ยนส์ ลีก กับ "ค้างคาว" บาเลนเซีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
       ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์ชาวสกอตแลนด์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เชื่อ ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ กองหน้าทีมชาติเม็กซิโก สามารถพัฒนาฝีเท้าจนเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ของสโมสร หลังโชว์ฟอร์มเด็ดด้วยการยิงประตูชัย ช่วยให้บุกชนะ บาเลนเซีย จ่าฝูงลา ลีกา สเปน 1-0 ในศึกยูฟ่า แขมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อวันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา




     หัวหอกวัย 22 ปี คือนักเตะโนเนมสำหรับแฟนบอลเมืองผู้ดี ตอนย้ายจากสโมสร ชีวาส ในประเทศบ้านเกิด มาสู่รัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 332.5 ล้านบาท) ช่วงกลางปีที่ผ่านมา แต่หลังเป็นฮีโร่เกมล่าสุด ก็ได้รับคำชมจากรุ่นพี่วัย 26 ปี ว่า "ฮาเวียร์แจ้งเกิดได้สำเร็จ และจบแมตช์อย่างยอดเยี่ยม เขาแสดงให้เห็นว่าสามารถเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ของแมนฯยูไนเต็ด เจ้าตัวยังหนุ่ม และกำลังปรับให้เข้ากับการเล่นชองเรา แม้มาจากเม็กซิโก แต่ก็เป็นดาวรุ่งที่มีความสามารถอย่างจริง"




     การชนะคราวนี้ ทำให้แมนฯยูไนเต็ดขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่ม ซี เพราะมี 4 คะแนน ลบความทรงจำจากแมตช์แรกที่เสมอ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส 0-0 โดยนัดต่อไปคือการเจอ บูร์ซาสปอร์ แชมป์ลีกตุรกี ในเดือนหน้า ซึ่งเฟล็ทเชอร์เชื่อ "ปีศาจแดง" คงจะโชว์ฟอร์มสุดยอดเหมือนเดิม โดยกล่าวว่า "เราอยู่ในตำแหน่งที่ดีอีกครั้ง ทุกคนผิดหวังกับการเสมอเรนเจอร์สคาบ้าน และรู้ว่าการเยือนบาเลนเซียไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ได้ 3 แต้มที่ทำไห้กลับไปเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เป้าหมายคือ 10 คะแนน และมันยังคงเป็นเช่นนั้นไม่เปลี่ยน"

เครดิต siamsport

ประวัติทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด Man United GloryGlory

ย้อนรอยอดีต แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


พอนึกถึง "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สโมสรฟุตบอลแนวหน้าของยุโรปทีไร พวกเราพลพรรค เรด อาร์มี่ ทุกคน ก็ต้องนึกย้อนไปถึงในอดีตในปี ค.ศ. 1902 แต่ก่อนหน้านี้ ทีมขวัญใจของพวกเราไม่ได้ชื่อนี้ พวกเขาถือกำเนิดด้วยชื่ออื่นๆ ซึ่งเป็นระยะเวลายาวนานเกินกว่า 100 ปี ในปี ค.ศ. 1878 พนักงานการรถไฟสาย แลงคาเซียร์ แอนด์ ยอร์คเชียร์ ได้เกิดไอเดียในระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเย็นอยู่ โดยพวกเขาได้ร่วมก่อตั้งทีมฟุตบอลทีมหนึ่งขึ้นมา และตระเวนเล่นกันอยู่ในแถบเมือง นอร์ธกราวด์ ซึ่งอยู่ใน นิวตัน ฮีธ

สถานที่ซ้อมก็ใช้รางรถไฟ เป็นเส้นแบ่งเขตสนาม ตลอดจนเสียงจากรถไฟเครื่องจักรไอน้ำ ก็เสมือนเป็นเสียงของกองเชียร์ ทีมฟุตบอล นิวตัน ฮีธ ที่พวกเขาตั้งขึ้นมาก็เล่นฟุตบอลกันได้อย่างดีเยี่ยมน่าประทับใจ โดยชุดแข่งที่ใช้นั้นเป็นเสื้อสี เขียว-เหลือง อย่างละครึ่ง ส่วนกางเกงเป็นสีดำและเป็นชุดเก่งของทีมด้วย พนักงานที่อยู่ในแถบนั้น แพ้ นิวตัน ฮีธ แบบสู้ไม่ได้เลย ในปี ค.ศ. 1885 สมาชิกในทีมได้ตัดสินใจติดต่อกับการรถไฟ และก่อตั้งทีมเพื่อเป็น บริษัท จำกัด โดยใช้ชื่อว่า นิวตัน ฮีธ ฟุตบอลคลับ

ผลงานชิ้นแรกของพวกเขาคือการคว้าแชมป์ของเมือง แมนเชสเตอร์ ในแมตช์ แมนเชสเตอร์ คัพ มาครอง นั่นคือถ้วยแรกของทีม นิวตัน ฮีธ ต่อมาอีก 3 ปี ฟุตบอลลีกของอังกฤษ ได้ก่อตั้งขึ้นมา ทีมรอบๆ เมือง โบลตัน กับ แอคคริงตัน ถูกเชิญเข้าร่วมการแข่งขันด้วย ยกเว้น นิวตัน ฮีธ แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก เพราะยังมีอีกหลายทีมที่ไม่ได้รับเชิญเข้าเป็นสมาชิกในตอนแรก พวกเขาก่อตั้งลีกกันเองโดยใช้ชื่อว่า อัลไลแอนช์ โดยมี เชฟฟิลด์ เว้นท์เดย์, นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ สมอลล์ ฮีธ ซึ่งในปัจจุบันก็คือทีม เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ นั่นเอง การแข่งขันในฤดูกาลแรกของพวกเขาได้อันดับ 8 จาก 12 ทีม ปีต่อมาได้อันดับ 9

ในปี ค.ศ. 1891 นิวตัน ฮีธ ได้รองแชมป์โดยเป็นรอง นอตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อย่างไรก็ตามปีต่อมาฟุตบอลลีก มีการแก้ไขเรื่องสมาชิกใหม่ และพวกเขาตอบรับการเข้าร่วมในลีกการแข่งขัน แต่พวกเขาเริ่มต้นในลีกได้ไม่ดีนักเมื่อทีม นิวตันฮีธ เปิดฤดูกาลใหม่ด้วยการแพ้ให้กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ไป 3-4 จากนั้นทีมก็ร่วงไม่เป็นท่า โดยชนะแค่ 6 ครั้งใน 30 นัด ตกไปอยู่ในอับดับบ๊วยของตาราง ก่อนที่จะรอดการตกชั้นเพราะว่า พวกเขาชนะ สมอลล์ ฮีธ 5-2 ที่ บรามอลล์เลน ปีต่อมา พวกเขายังเล่นแย่เหมือนเดิม และกลายเป็นทีมที่อยู่ในอันดับบ๊วยของตารางอีกเช่นเคย และก็โดน ลิเวอร์พูล ถล่มประตูเอาชนะไป 2-0 ทำให้ นิวตัน ฮีธ ตกชั้นไปในที่สุด นั่นเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่ของพวกเขา แม้จะมีการยุบลีกและตั้งใหม่ แต่ทีมก็มีปัญหา ในการเข้าร่วมเนื่องจากสถานะทางการเงินไม่เอื้ออำนวย ก่อนที่จะล้มละลาย ในปี ค.ศ. 1902

จอห์น เดวี่ส์ เจ้าของกิจการเบียร์ท้องถิ่นได้เข้ามาดูแลกิจการของสโมสร พวกเขาย้ายมาจาก นอร์ธ โรด เพื่อไปใช้สนามใหม่แถบ แบงค์ สตรีท หลังจากที่ อยู่ที่ นอร์ธ โรด มา 9 ปีเต็ม ขณะเดียวกันเพื่อนบ้านคู่แข่งขันอย่าง อาร์คลิค เปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ประธานสโมสรคนแรกของ นิวตัน ฮีธ บอกว่าทีมของเขาสมควรที่จะใช้ชื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากกว่า แต่ถึงอย่างไรทีมก็ช้าไป พวกเขาเลยตั้งชื่อกันมามากมายหลายชื่อ เช่น แมนเชสเตอร์ เซ็นทรัล, แมนเชสเตอร์ เซลติก และสองชื่อนี้ถูกปฏิเสธไป ในที่สุดชื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จึงเข้ามาแทนที่ในวันที่ 26 เมษายน ปี ค.ศ. 1902 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือชื่ออย่างเป็นทางการของพวกเขา จนกระทั่งถึงทุกวันนี้

ผู้จัดการทีมคนแรกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือ เออร์เนสต์ แมกนัลล์ แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จ กลับกลายเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คู่ปรับร่วมเมืองที่คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ในปี 1904 ทว่าในเวลาต่อมาโดนสอบสวนและ พบว่ามีการจำหน่ายตั๋วผี ก็เลยทำให้เมือง แมนเชสเตอร์ โดนแบนห้ามยุ่งเกี่ยวกับฟุตบอลเป็นเวลาถึง 1 ปี พอพ้นกำหนดโทษห้ามเล่น บิลลี่ เมเรดิธ นักเตะชาวเวลส์ กลายเป็นสมาชิกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทันที ทีมปีศาจแดงของ แมกนัลล์ ใช้เวลา 2 ปีเต็มถึงสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่นสอง และเลื่อนชั้นมาเล่นในดิวิชั่นหนึ่งได้สำเร็จ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำสถิติยิง 82 ประตู คว้าแชมป์สมัยแรกไปครอง อย่างยิ่งใหญ่ ในปี ค.ศ. 1908 ด้วยสไตล์การเล่นที่ "เร็วและสวยงาม" อย่างไรก็ตาม จอห์น เดวี่ส์ ประธานสโมสร ได้ทำการเปลี่ยนแปลงสนามเหย้าของทีมอีกครั้ง เขาตัดสินใจย้ายจาก แบงค์ สตรีท ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าพื้นสนามนั้นแย่มาก เขาย้ายห่างจากตัวเมืองไปอีก 5-6 ไมล์ ที่นั่นคือ "แทรฟฟอร์ด พาร์ค" ย่านชานเมือง แมนเชสเตอร์ และ เดวี่ส์ ได้เรียกสนามนัดเหย้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แห่งนี้ว่า "โอลด์ แทรฟฟอร์ด"

จอห์น เดวี่ส์ มีแผนการสร้างสนาม สปอร์ต คอมเพล็กซ์ มีความจุถึง 80,000 ที่นั้ง มีห้องกายภาพบำบัด สระว่ายน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พวกเขาสิ้นเงินไปกับสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ค่อนข้างมากทำให้ทีมต้องขายนักเตะดีๆ ออกไปหลายคน ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเริ่มต้น ทีมสามารถคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ในปี ค.ศ. 1911 และนั่นคือเกียรติยศ ครั้งสุดท้ายของ เออร์เนสต์ แมกนัลล์ มีเหตุการณ์อัปยศเกิดขึ้นในวงการฟุตบอลอังกฤษ เมื่อ ลิเวอร์พูล เดินทางมาเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถ้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ชนะพวกเขาจะตกชั้นทันที ผลนัดดังกล่าวปรากฏว่าพวกเขาเอาชนะ ลิเวอร์พูล ไป 2-0 และรอดพ้นจากการตกชั้นมาได้ แต่ในรายงานของผู้ตัดสิน ระบุว่า นักเตะฝ่าย ลิเวอร์พูล เล่นกันแปลกๆ เหมือนกับจะล้มบอล...

ต่อมามีการสอบสวน และพบว่ามีนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ข้างละ 4 คน ต่างพากันล้มบอลล่วงหน้า และมีการไปแทงพนันในร้านรับพนันท้องถิ่นของอังกฤษ ซึ่งผลจากการสอบสวนทำให้นักเตะทั้ง 8 คนนั้น โดนแบนห้ามเล่นฟุตบอลตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม เป็นจังหวะที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 พอดี หลังสิ้นสุดสงคราม โทษแบนนั้นได้ถูกยกเลิกไป ทั้งสองทีมจึงกลับมา บูรณะสร้างทีมกันใหม่ รวมไปถึงสภาพสนามที่โดนระเบิดเผาทำลายด้วย

ประวัติศาสตร์อันยาวนานยิ่งทำให้ยากที่จะระลึกถึงและเมื่อกาลเวลาย่างเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ความทรงจำเก่าๆ เกี่ยวกับความเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอดีตที่อาจจะต้องไปอยู่ในยุคของ [img]"บัสบี้%20เบ็บส์"[/img] หรือรับรู้เรื่องราวเหล่านี้จากคุณปู่คุณทวด ช่วงเวลาสำคัญที่ยิ่งใหญ่ของใครบางคนอาจจะเริ่มขึ้นในช่วงยุค 70 หรือบางคนอาจจะโตขึ้นมาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาและได้รับรู้เรื่องราว ความสำเร็จอย่างล้นเหลือของ [img]เซอร์%20อเล็กซ์%20เฟอร์ผมสัน[/img] ดังนั้นเรามีวิธีเดียวที่ทำให้เรารู้เรื่องเกี่ยวกับเมื่อ 100 ปีก่อน เริ่มจาก [img]"นิวตัน%20ฮีธ"[/img] กลายมาเป็น [img]"แมนเชสเตอร์%20ยูไนเต็ด"[/img] ก็คือการเดินเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ของสโมสรเท่านั้น

วันนี้เลยประมวลภาพบางส่วนในอดีตมาให้ได้ชมกัน แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพแห่งความสำเร็จหรือเหตุการณ์ที่น่าจดจำอย่างครบถ้วนนัก แต่ก็เป็นภาพที่สาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทุกคนควรได้ดู ได้เห็น

รูปภาพ

"อย่าให้โดนเท้านะ โบว์เลอร์" เหล่าดาราของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุค ปี ค.ศ. 1900 ออกมาพักผ่อนด้วยการเล่นคริกเกต

รูปภาพ

ปีศาจหัวแข็ง ทีมปีศาจแดงชุดแชมป์ เอฟเอ คัพ 1909 ถูกบอร์ดบริหารสั่งปลดจากการเป็นนักเตะของสโมสรยกชุด เพราะไม่ยอมเซ็นสัญญาต่อต้านการก่อตั้งสหภาพนักฟุตบอลอาชีพที่ก่อตั้งใหม่ โดยมี ชาร์ลี โรเบิร์ตส์ (ในรูปวงกลม) นักเตะหัวโจกผีแดง ยุคนั้นเป็นคีย์แมน

รูปภาพ

ต้อนรับวีรบุรุษ สาวก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างรอรับฮีโร่ของพวกเขาที่สามารถคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ในปี ค.ศ. 1909 โดยเหล่านักเตะ ปีศาจแดง ยุคนั้น ได้นั่งรถม้าผ่านหน้าแฟนบอลที่มารอกันอย่างเนืองแน่นที่สถานี นอร์ธเทิร์น เกรท เซนทรัล หรือปัจจุบันก็คือ จี-แม็ค เซ็นเตอร์

รูปภาพ

เมื่อยจัด จอห์นนี่ คารี่ย์ ไม่รู้เมื่อยมาจากไหนถึงได้ยิ้มแฉ่งระหว่างถูกนวดอยู่

รูปภาพ

สงครามคือการทำลายล้าง สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถูกกองทัพทหารเยอรมันทิ้งระเบิดลงมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเหล่านักเตะก็ยังตั้งหน้าตั้งตาฝึกซ้อมอย่างมุ่งมั่น

รูปภาพ

สนามซ้อมข้างถนน ในยุค 50 ทีมมักจะมาฝึกซ้อมกันที่ถนนหน้าสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เสมอ และที่นี่เองที่ เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ฝึกการเกี่ยวบอลด้วยเท้าซ้าย เราอาจจะลองคิดเล่นๆ ว่านี่คือ เดวิด เบ็คแฮม, ไรอัน กิ๊กส์ และเพื่อนๆ วิ่งไล่บอลกันในที่จอดรถที่สนามก็ได้

รูปภาพ

แฟนระดับวีไอพี ทอมมี่ เทย์เลอร์ เข้ามาคุยกับแฟนบอลระดับวีไอพีของทีมก่อนที่จะลงแข่ง ยูโรเปี้ยน คัพ รอบรองชนะเลิศ ตัดเชือกกับทีม เรียล มาดริด ในปี ค.ศ 1957

รูปภาพ

ฤดูกาลที่แสนสาหัส แม้จะทั้งมอมแมมและเต็มไปด้วยรอยแผล แต่ ทอมมี่ เทย์เลอร์ และ โรเจอร์ เบิร์น ก็ฉลองแชมป์ลีกในปี ค.ศ. 1956 ได้อย่างมีความสุข

รูปภาพ

เจ้านายกับเจ้ายักษ์ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส์ ดาวรุ่งร่างยักษ์ของทีมกำลังตั้งใจฟังคำแนะนำของ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้

รูปภาพ

โศกนาฏกรรม บิลล์ โฟ้กค์ส แสนจะสลดกับการที่ ต้องสำรวจเครื่องบินมรณะที่พรากผู้เล่นทีมผีแดง และเจ้าหน้าที่ถึง 11 ชีวิตไปจาก "โรงละครแห่งความฝัน"

รูปภาพ

อยู่ในความทรงจำตลอดกาล แม็ตต์ บัสบี้ ยืนอยู่ หน้าหลุมฝังศพของ ดันแคน เอ็ดเวิร์ดส ในเมือง ดั๊ดลี่ย์ เพื่อไว้อาลัยในพิธีศพให้แก่นักเตะที่อาจจะเก่งที่สุดที่เคยสวมเสื้อ ปีศาจแดงเลยก็ว่าได้

รูปภาพ

นางงามปีศาจแดง 1959 เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน (ที่ 3 จากซ้าย) ร่วมแสดงความยินดีกับ มิส โคโรธี่ กรีน ผู้ทรง เสน่ห์จนคว้ารางวัลไป

รูปภาพ

จั่วไพ่กลางเวลา เดนิส ลอว์ ดูเหมือนน่าจะชนะกับไพ่ในมือของเขา ในขณะที่ จอร์จ เบสต์ กำลังเพ่งไพ่ ของตัวเองอย่างเคร่งเครียดบนเครื่องบินที่พาพวกเขาไปเมือง มาดริด ในปี ค.ศ. 1968 เพื่อไปแข่งขัน ยูโรเปี้ยน คัพ รอบรองชนะเลิศนัดที่ 2

รูปภาพ

คุมเข้มกับการดูแลความสงบ นี่คือห้องควบคุมภายในสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี ค.ศ. 1959 เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ดูแลความสงบให้กับแฟนบอลจากห้องนี้

รูปภาพ

แชมป์ ยูโรเปี้ยน '68 ที่หอมหวาน ถ้วยใบโตของยุโรปที่สร้างความปราบปลื้มให้กับทุกๆ คน

รูปภาพ

ยุตติยุคของ แม็ตต์ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ ประกาศลาออกจากการคุมทีมในเดือนมกราคมปี ค.ศ. 1969

รูปภาพ

ป้องกันฮูลิแกน เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้, เลส โอลีฟ และเจ้าหน้าที่ของ เอฟเอ ตรวจตรารั้วใหม่ของสนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในปี ค.ศ 1974

รูปภาพ

ลงเล่นน้ำ เซอร์ แม็ตต์ บัสบี้ และทีมของเขาต่างอาบแดดเล่นน้ำ ที่สระว่ายน้ำในปี ค.ศ 1950

รูปภาพ

คารวะสันตปาปา ไบรอัน คิดด์ ในชุดสูทและเนกไทที่ดีที่สุดของเขาเข้าบรรจงจุมพิตพระหัตถ์ของพระสันตะปาปา โดยมี ทอมมี่ ด็อกเคอร์ตี้ มองอยู่

รูปภาพ

หมวกประหลาด อาเธอร์ อัลบิลตัน, ฮุสตัน ดาลี่, ไบรอัน กรีนฮอฟฟ์ และ สเต็ปนี่ย์ ต่างสวมหมวกทรงอะไรก็ไม่ทราบโบกมือให้แฟนๆ หลังจากคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ในปี ค.ศ 1977

รูปภาพ

นี่แหละเด็กอั๊ว "บิ๊กรอน" รอน แอตกินสัน ฉลองแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 1983 หลังจากชนะนัดรีเพลย์ เหนือ ไบรท์ตัน ร่วมกับ เควิน มอร์แรน และ นอร์แมน ไวท์ไซด์ จอมถล่มประตู

รูปภาพ

ความใฝ่ฝันของไนจ์ตัน มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหาก ไมเคิ่ล ไนจ์ตัน เข้ามาเทกโอเวอร์ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ในปี ค.ศ. 1990

รูปภาพ

รูปภาพ

วิวัฒนาการของ ฮิวจ์ นี่คือหน้าตาที่แสนจะน่ารักของ มาร์ค ฮิวจ์ส ซึ่งภาพต่อมานั้นเขากลายเป็นศูนย์หน้าระดับเยี่ยมพันธุ์ดุ ที่แม้แต่ สตีฟ โบลด์ แผงหลังจอมหินของ อาร์เซนอล ยังต้องสะพึงกลัว

รูปภาพ

เฟอร์กี้ เริ่มงาน ที่ชั้นวางหนังสือข้างๆ เขาอาจจะดูเกะกะไม่เรียบร้อย แต่สองอันยอดเยี่ยมของเขาก็สามารถผลิต ความสำเร็จสู่สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาอย่างยิ่งใหญ่

รูปภาพ

ผลผลิตของเฟอร์กี้ ไรอัน กิ๊กส์ กำลังยกถ้วยแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ปี ค.ศ. 1992 โดยมี เดวิด เบ็คแฮม และ แกรี่ เนวิลล์ มองด้วยความภาคภูมิใจ

รูปภาพ

จุดเริ่มแห่งความสำเร็จ เอริก คันโตน่า เข้ามาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเดือนพฤศจิกายนปี ค.ศ. 1992 และเข้ามายกระดับมาตรฐานของผู้เล่นเยาวชนอย่าง เดวิด เบ็คแฮม (ขวาสุด) ให้พาทีมไปสู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคต

เรียบเรียงข้อมูลจาก
- วารสารชมรม เรด อาร์มี่ แฟนคลับ เล่มที่ 1 ปี พ.ศ. 2543
- ภาพและคำอธิบาย นิตยสาร เรด เดวิลส์ เล่มที่ 9 ของสยามกีฬา

เฟอร์กูสันชี้! โอเว่นเป็นนักเตะที่ดีกว่าตั้งแต่ย้ายมาแมนยู

manchester united
เฟอร์กูสันชี้! โอเว่นเป็นนักเตะที่ดีกว่าตั้งแต่ย้ายมาแมนยูเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมาให้สัมภาษณ์ถึง ไมเคิ่ล โอเว่น ชี้! อดีตหอกทีมชาติอังกฤษ เจ๋งขึ้นนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด

   เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมากล่าวชม ไมเคิ่ล โอเว่น กองหน้าของทีม เป็นนักเตะที่ดีกว่า! เมื่อเทียบกับในอดีตนับตั้งแต่ย้ายมาเล่นในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด แม้ว่าเจ้าตัวจะต้องใช้เวลาส่วนใหญ่นั่งอยู่ข้างม้านั่งสำรอง

   โอเว่น ได้แสดงให้เห็นว่าตน ยังเป็นนักเตะระดับคุณภาพแม้จะก้าวผ่านช่วงพีคสุดของอาชีพนักเตะมาแล้วในเกม กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมาหลังลงมาเป็นตัวสำรองช่วง 20 นาทีสุดท้ายพร้อมๆ กับทำประตูช่วยทีมให้รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ ก่อนจะเสมอกันไป 2:2

   บอสใหญ่เลือดสก็อตต์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึง โอเว่น "เขายังคงเป็นนักเตะที่โดดเด่น และผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่ดีกว่า นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมกับสโมสรแห่งนี้ ประตูเมื่อวันเสาร์ เป็นประตูที่ยอดเยี่ยม เขาฟิตและผึกซ้อมทำทุกอย่างได้สมบูรณ์แบบ เขาดีขึ้นมากนับตั้งแต่มาร่วมกับเรา" เฟอร์กี้ กล่าว


เครดิต sport thaiza

ชิชาริโต้ฝันเป็นจริงซัดประตูในแชมเปี้ยนส์ลีก

ชิชาริโต้ฝันเป็นจริงซัดประตูในแชมเปี้ยนส์ลีกฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ดาวยิงตาหวานชาวจังโก้ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดปลื้มใจยิงประตูช่วย "ปีศาจแดง" บุกชนะ บาเลนเซีย 1-0 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก พุธที่ผ่านมา ชี้อยู่ เม็กซิโก จะนั่งดูบอลยุโรปตลอด การยิงประตูแรกได้จึงเหมือนฝันเป็นจริง
     ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ ดาวยิงทีมชาติเม็กซิโก ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฝันเป็นจริง หลังซัดประตูช่วย "ปีศาจแดง" บุกเอาชนะ บาเลนเซีย ทีมแกร่งของ สเปน ไปได้หวุดหวิด 1-0 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่วังค้างคาว เมสตาย่า วันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา ชี้อยู่ที่บ้านในแดนจังโก้ จะนั่งดูเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เสมอ และหวังว่านี่จะเป็นแค่จุดเริ่มต้นของอีกหลายประตูที่จะเกิดขึ้นตามมานับจากนี้

     ชิชาริโต้ ที่รับบอลจาก เฟเดริโก้ มาเคด้า อีกหนึ่งตัวสำรองที่ลงมาแทน ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ก่อนสับไกด้วยซ้ายอย่างเฉียบขาด กล่าวว่า "มันเป็นค่ำคืนที่สุดยอด ผมมีความสุขที่ยิงประตูได้ แต่มันสำคัญเช่นกันที่ทีมชนะ และได้ 3 แต้ม ผมดีใจที่มีส่วนช่วยทีมชนะ แต่คืนนี้แผงหลังของเราเล่นกันได้เหนียวแน่นมาก และในฐานะนักเตะกองหน้าแล้ว เรารู้สึกประทับใจมาก"  

     กองหน้าความเร็วสูง กล่าวถึงการยิงประตูในแชมเปี้ยนส์ ลีก ว่า "ตอนอยู่ที่ เม็กซิโก ผมจะดูบอลแชมเปี้ยนส์ ลีก เสมอ นี่เป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผมก็เลยตามดูตลอด การยิงประตูใน แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ลงเล่นให้กับ ยูไนเต็ด เหมือนฝันเป็นจริงของผม มันทำให้ผมมีแรงใจ และมันยังมอบความมั่นใจให้ผมด้วย"

     จังหวะสับไกของ ชิชาริโต้ เกิดขึ้นในนาทีที่ 85 ซึ่งมาจากการขึ้นเกมทางกราบขวาของ นานี่ ที่ผ่านบอลเข้ากลางให้ กิโก้ มาเคด้า ที่ตบบอลต่อมาให้เขายิงตุงตาข่าย "มันมาจากการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ นานี่ ที่ครองบอลเอาไว้ แล้วก็ส่งต่อมาให้ กิโก้ ซึ่งเขาก็ผ่านบอลมาให้ผมได้อย่างสุดยอด และผมยิงเข้าไปได้"

     นี่เป็นประตูที่สองของ ชิชาริโต้ กับทีม "ปีศาจแดง" นับตั้งแต่ย้ายมาจาก ชีวาส กัวดาลาฮาร่า หลังจากที่ซัดประตูพิสดารใส่ เชลซี มาแล้วในถ้วยคอมมูนิตี้ ชิลด์ โดย หัวหอกตาหวาน บอกว่าเขาไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว และมีแรงกระตุ้นที่จะทำผลงานให้ดี

     "ผมปรับตัวกับชีวิตใน แมนเชสเตอร์ ได้ดี ผมพยายามเรียนรู้ และทำงานหนัก เพราะว่าผมอยากจะประสบความสำเร็จที่นี่ ผมมีแรงกระตุ้นเต็มที่ ผมมีความสุข การเป็นนักเตะ ยูไนเต็ด มันสุดยอดมาก ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้ไปนานๆ"
  

เครดิต siamsport

"ท่านเซอร์"มั่นใจ"รูนีย์"คืนฟอร์มชัวร์


เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด มั่นใจว่า เวย์น รูนีย์ จะเรียกฟอร์มเก่ง กลับมาช่วยทีมได้อย่างแน่นอนในฤดูกาลนี้ ถึงแม้หัวหอกร่างตันจะกำลังฟอร์มตกอย่างหนัก อีกทั้งมีอาการบาดเจ็บรบกวนจนจะไม่สามารถลงสนามได้ราว 2-3 สัปดาห์ด้วย
   
"รูน" วัย 24 ปี เพิ่งยิงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้แค่ประตูเดียว นับตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า จากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ กับ บาเยิร์น มิวนิก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนั้นยังเจ็บซ้ำที่เดิมจนจะไม่ได้ลงเล่นให้ทีมถึงวันที่ 16 ต.ค. นี้ เป็นอย่างน้อยด้วย
   
อย่างไรก็ดี "เฟอร์กี" ยังมั่นใจว่า รูนีย์ จะเรียกฟอร์มสุดยอดกลับมาได้แน่นอน "เวย์น มักจะทำได้ดีเสมอตอนที่หายเจ็บกลับมาลงสนาม และคราวนี้ ไม่ใช่อาการเจ็บแบบเดียวกับในเกมกับ บาเยิร์น เมื่อเดือนมี.ค. ผมจึงยังมั่นใจว่าเขาจะกลับมาเป็นตัวหลักของเราได้เหมือนเดิม"

ถั่วน้อยถ่อมตัวยกความดีความชอบให้บัง-กิโก้


     "ถั่วน้อย" ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซหอกจิ๋วแจ๋วเจาะตาข่ายออกมากล่าวยกย่องเพื่อนร่วมทีมทั้งนานี่และเฟเดอริโก้ มาเคด้าที่ช่วยให้เขาสามารถทำประตูชัยในเกมที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดพบกับบาเลนเซียได้

ถั่วน้อยกลายเป็นฮีโร่ของเกมนี้หลังถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลังและใช้เวลาไม่นานก็พังประตูได้ในนาทีที่ 85 ช่วยให้ปีศาจแดงบุกมาเก็บชัยนัดสำคัญเหนือบาเลนเซียได้

"มันเป็นการเล่นที่ยอดเยี่ยมของนานี่ที่เขาเก็บบอลได้และจ่ายต่อให้กิโก้และมันเป็นการจ่ายที่ยอดเยี่ยมของกิโก้ที่ช่วยให้ผมทำประตูได้" เฮอร์นานเดซกล่าว

นอกจากนี้ถั่วน้อยยังกล่าวด้วยว่าเขามีความสุขกับการใช้ชีวิตในเมืองแมนเชสเตอร์และต้องการจะเล่นในถิ่นโอล แทร๊ฟฟอร์ดไปอีกนาน

"ผมไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตที่เมืองแมนเชสเตอร์"

"ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างและพยายามอย่างหนักเพราะว่าผมต้องการจะทำให้มันดี ผมมีแรงกระตุ้นมาก"

"ผมเอ็นจอยกับมันมากและมันเป็นเรื่องดีสุดๆที่ได้เป็นนักเตะของยูไนเต็ด ผมอยากให้มันเป็นแบบนี้ไปอีกนาน"

_________________
##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

โอเว่นเผยเคยเกือบคัมแบ็คหงส์



ไมเคิ่ล โอเว่นหอกสำรองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดออกมาเผยว่าเขาเคยเกือบย้ายซบลิเวอร์พูลสมัยที่ยังอยู่เรอัล มาดริดแต่สุดท้ายทีมเก่าไม่กล้าทุ่มลงท้ายเซ็นสัญญาเล่นให้นิวคาสเซิ่ล
"
เบบี้โกล์"ซึ่งเหลือสัญญาปีเดียวย้ายหนีไปเรอัล มาดริดในปี 2004 หรือปีแรกที่ราฟาเอล เบนิเตซเข้ามาคุมทีมด้วยค่าตัวราว 8 ล้านปอนด์พร้อมอันโตนิโอ นูเยสปีกซาเล้งข้ามฝากมาแอนฟิลด์
แม้ประสบความสำเร็จจากการยิง 18 ประตูใน 41 เกมแต่สุดท้ายต้องระเห็จกลับอังกฤษโดย"หงส์แดง"พยายามซื้อกลับในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้นแต่ท้ายที่สุดนิวคาสเซิ่ลกล้าทุ่มถึง 17 ล้านปอนด์ซึ่งบอร์ดทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์ไม่อยากเสียเงินก้อนขนาดนั้นกับนักเตะที่พวกเขาสร้างขึ้นมาและเพิ่งขายไปในราคา 8 ล้านปอนด์จึงต้องยกยกธงในที่สุด

"
มันเป็นเรื่องจริงนะ ผมได้คุยกับริค แพร์รี่และผมอยู่ในเมืองลิเวอร์พูลกับราฟาเอล เบนิเตซ เราเกือบตกลงกันครบทุกอย่าง ประเด็นสำคัญคือเรอัล มาดริดและลิเวอร์พูลตกลงค่าตัวกันไม่ได้และผมคิดว่ามันก็โอเคเลยสำหรับการย้ายทีมนิวคาสเซิ่ล"

"
มันเป็นปีฟุตบอลโลกและผมอยากลงเล่นประกอบกับทั้งมาดริดซื้อกองหน้าเข้ามา 2 คนดังนั้นผมเลยเลือกไปเซนต์ เจมส์ พาร์คและผมคิดว่าแจ่มมาก มันคล้ายๆลิเวอร์พูลหลายอย่างมากโดยเฉพาะผู้คนบ้าบอลมั่กๆ ผมเคยคิดว่ามันสุดยอดมากหากได้กลับไปลิเวอร์พูลแต่เล่นให้นิวคาสเซิ่ลก็เป็นประสบการณ์ที่แจ่มไม่แพ้กัน"
แจ่มที่ว่านี้แจ่มโอเว่นคนเดียวเพราะทูนอาร์มี่ไม่รู้สึกสนุกด้วยเนื่องจากอดีตหอกทีมชาติอังกฤษเจ็บบ่อยโดยตลอด 4 ปีระหว่าง 2005-2009 ลงสนามไป 71 นัดยิง 26 ประตู
มีการคำนวณกันว่า"เบบี้โกล์"กดค่าเหนื่อย 110,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์คิดตลอด 4 ปีตก 25 ล้านปอนด์เฉลี่ยลงเล่นนัดละ 350,000 ปอนด์เลยทีเดียว
_________________
#####
ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

ริโอยกชิชาริโต้สุดเจ๋ง-ปลื้มฟอร์มคัมแบ๊ก

ริโอยกชิชาริโต้สุดเจ๋ง-ปลื้มฟอร์มคัมแบ๊กริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังจอมแกร่ง ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชม ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ยกใหญ่ หลังเป็นฮีโร่ช่วยทีมชนะ บาเลนเซีย 1-0 ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ชี้เป็นเด็กนิสัยดี ทัศนคติเยี่ยม ขยันซ้อมทุกวัน และต้องการเรียนรู้ตลอดเวลา

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งพรีเมียร์ลีก ยกย่อง ฮาเวียร์ "ชิชาริโต้" เอร์นานเดซ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเม็กซิโก หลังจากลงมาเป็นซูเปอร์ซับ ซัลโวประตูโทนช่วยให้ทีม "ปีศาจแดง" บุกคว้าชัยชนะสุดสำคัญเหนือทีม "ค้างคาว" บาเลนเซีย 1-0 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มซี ที่สนาม เมสตาย่า วันพุธที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา
 
     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยน ชิชาริโต้ ลงมาแทน อันแดร์สัน ช่วง 15 นาทีสุดท้าย และหลังจากมีจังหวะปราดชาร์จบอลชนเสานาทีที่ 84 จากนั้นไม่กี่อึดใจถัดมา จังหวะทำเกมทางขวาของ นานี่ ตบบอลเข้ากลางให้ เฟเดริโก้ มาเคด้า เลี้ยงจี้เข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนผ่านบอลให้ ชิชาริโต้ รับบอล แล้วสับไกด้วยซ้าย แหวกกองหลังเจ้าบ้าน ส่งบอลผ่านมือ เซซาร์ ซานเชซ เข้าเสาแรก อย่างคมกริบ ช่วยให้ ยูไนเต็ด ชนะสุดหวิด เก็บ 3 แต้มเต็ม รวมมี 4 แต้มจาก 2 นัด
 
     "เขาเป็นเด็กที่วิเศษมาก เขามาซ้อมแต่หัววันทุกครั้ง และเป็นหนึ่งในคนที่กลับช้าที่สุด เขามีทัศนคติที่ดีมาก เขาต้องการเรียนรู้ และเข้ากับทีม แต่คนอื่นๆ ก็เหมือนกัน ทั้ง กิโก้ และ ไมเคิ่ล โอเว่น เรามีนักเตะที่สามารถส่งลงไปในสนาม และสร้างความแตกต่างให้เราได้" เฟอร์ดินานด์ ที่ลงเล่นนัดที่ 2 ของฤดูกาลนี้ นับตั้งแต่หายเจ็บ ต่อจากเกม คาร์ลิ่ง คัพ กับ สคันธอร์ป ยูไนเต็ด กล่าว
 
     เกมนี้ ยูไนเต็ด ลงเล่นอย่างรัดกุม อาศัยเกมรับที่เหนียวแน่น แล้วหาจังหวะโต้กลับเล่นงานเป็นระยะๆ และได้ผลตามที่คาดหวังเาอไว้ "เกมนี้เราลงมาเล่นโดยเน้นความเหนียวแน่นว่าจะไม่โดนพวกเขายิงแน่ๆ แล้วเล่นงานพวกเขาด้วยเกมโต้กลับ ผมคิดว่าเราจัดการพวกเขาได้อยู่หมัดในครึ่งแรก แต่เราก็ไม่ได้ทำเกมบุกขึ้นไปสักเท่าไหร่ เราเล่นดีขึ้นในครึ่งหลัง เราครองบอลได้ แล้วจากนั้นสองตัวสำรอง กับ นานี่ ก็ช่วยกันยิงประตูที่สวยงาม"
 
     "แน่นอนว่าชัยชนะช่วยเรียกความมั่นใจให้เรามาก เรามีบทเรียนจากการทำแต้มหล่นหายในไม่กี่เกมที่ผ่านมา พอเจอเกมแบบนั้นหลายเกมเข้าคุณก็อาจประสาทเสียได้ แต่คืนนี้ผมว่าทีมเราจัดการกับเรื่องนี้ได้ดีมาก" ริโอ กล่าว ก่อนเอ่ยถึงฟอร์มตัวเองว่าพอใจมาก
 
     "ผมรู้สึกดี ผมดีใจที่กลับมาเล่นได้อีกครั้ง ผมมีความสุขกับการเล่นฟุตบอล มันคือสิ่งที่ผมรู้จัก และเป็นสิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุด การได้ลงสนาม เล่นครบ 90 นาทีเป็นเรื่องวิเศษ และการมาชนะที่ สเปน ยิ่งสุดยอด เพราะเรารู้ว่ามาเล่นที่นี่เป็นยังไง และเราทำได้" 

เครดิต siamsport 

บอลแบบลาตินอเมริกา ยังไงก็เสร็จ ชิชาร์ ???

อ่อนๆ เจ้าถั่วซูเปอร์ซับ! ผีบุกฝังค้าคาว1:0แก้เขิน

<><><> <><><> <><><> <><><> <><><> <><><> <><><>

  ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ 29 กันยายน 2553 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ บาเลนเซีย 1:0 ได้ประตูจาก ชิชาริโต้ ที่ลงมาเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกม 









รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง









สนาม : เมสตาย่า สเตเดี้ยม, สเปน 
ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี) 
เวลาเตะ : 01:45 น. 
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3 
ผู้ทำประตู: ชิชาริโต้ น.85 


      ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ 29 กันยายน 2553 บาเลนเซีย เปิดรังเมสตาย่า สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด! เจ้าถิ่น ได้รับข่าวดี ฆวน มานูเอล มาต้า กองกลางตัวเก่งผ่านความฟิตกลับมาลงสนาม โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ทีมเยือน แมนยู จะไม่มี เวย์น รูนีย์ ดาวยิงคนสำคัญ รวมทั้ง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกจอมเก่า ที่มีอากการบาดเจ็บรบกวน

      ครึ่งแรก 
      บาเลนเซีย เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากซ้ายไปขวา เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ลุ้นในนาทีที่ 4 จากจังหวะลองสับไกของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ บอลหลุดกรอบออกหลัง

     บาเลนเซีย ได้ลุ้น! ในนาทีที่ 16 ไมเคิ่ล คาร์ริค เล่นพลาดจิ้มบอลไปเข้าทาง ปาโบล เฮอร์นานเดซ ยิงไกลจากนอกกรอบ บอลโด่งข้ามคาน

      นาทีที่ 33 แมนยู ได้ลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย จากจังหวะที่ คาร์ริค โดนเหนี่ยวล้มลง นานี่ เปิดเข้ามาในเขตโทษจะให้เพื่อนร่วมทีมแนวรับบาเลนเซีย โขกสกัดออกมาได้

     เกมยังขาดๆ เกินๆ แมนยู มีจังหวะบุกแต่ยังจบไม่ได้ ขณะที่เจ้าถิ่น บาเลนเซีย เปอร์เซ็นต์ครองบอลนั้นต้องบอกว่ามากกว่า แต่ยังพลาดในจังหวะสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 0:0

      ครึ่งหลัง 
      เขี่ยลูกเริ่มเกมในครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น บาเลนเซีย ได้ลุ้นในนาทีที่ 49 ปาโบล เฮอร์นานเดซ ลากตัดจากขวาเข้าเขตโทษ ก่อนจะบอลหลุดเสาไกล ออกหลัง ฟาน เดอร์ ซาร์ ถึงกับต้องออกมาโวยเพื่อน!!

      แมนยู ได้ลุ้น! ในนาทีที่ 56 เฟล็ทเชอร์ วางบอลยาวถ่างออกซ้าย เบอร์บาตอฟ ทำสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง! สปีดพาบอลหนีตัวประกบเข้าไปในเขตโทษดีดด้วยซ้ายติด เซซาร์ ซานเชซ ออกหลัง

      นาทีที่ 69 บาเลนเซีย ขึ้นเกมมาทางซ้าย! เฌเรมี่ มาติเยอ เติมเกมขึ้นมาเปิดผ่านเข้ากลางจะให้ โรเบร์โต้ โซลดาโด้, เฟอร์ดินานด์ อ่านขาดชิงสกัดออกไปได้ก่อน

      บาเลนเซีย ทำเกมได้เหนือกว่าแมนยู! นาทีที่ 74 บอลจากริมเส้นฝั่งขวาเปิดเข้ามาในเขตโทษ โซลดาโ้ด้ เทคตัวสะบัดโขกบอลหลุดออกหลังอย่างได้ลุ้น!

      แมนยู เกือบได้ประตูขึ้นนำ! นาทีที่ 80 เฟล็ทเชอร์ ถ่างบอลออกขวา นานี่ แตะหาจังหวะเปิดข้ามมาที่เสาไกล ชิชาริโต้ ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงเข้าชาร์จชนเสา

     กลายเป็นแมนยู ที่บุกน้อยกว่าได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 85 นานี่ จ่ายจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาใน กิโก้ มาเชด้า ได้บอลตรงบริเวณมุมเขตโทษ ผ่านต่อเข้ากลาง ชิชาริโต้ เกี่ยวเข้าซ้ายยิงเร็วส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายอย่างสวยงาม! แมนยู ขึ้นนำ 1:0 

      ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีการทำประตูเพิ่ม! แมนยู บุกมาเอาชนะ บาเลนเซีย ไปได้ด้วยสกอร์ 3:1 คว้า 3 คะแนนสำคัญขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม 


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม 
บาเลนเซีย: ระบบ 4-4-2 
ผู้รักษาประตู : เซซาร์ ซานเชซ 
กองหลัง : ดาบิด นาบาร์โร่, หลุยส์ มิเกล, เฌเรมี่ มาติเยอ, เฮ้ดวิกส์ มาดูโร่ 
กองกลาง : อัลเมด้า (เมเหม็ด โทปาล น.88), ปาโบล เฮอร์นานเดซ, ติโน่ คอสต้า (มานูเอล เฟอร์นานเดส น.73), ฆวน มาต้า
กองหน้า : โรเบร์โต้ โซลดาโด้, อเลยานโดร โดมิงเกซ (อาริทซ์ อาดูริซ น.59)
สำรอง : มานูเอล เฟอร์นานเดส, บรูโน่ ซัลตอร์, มิเกล อังเคล โมย่า, ริคาร์โด้ คอสต้า, โซฟิยาน เฟกูลี่, อาริทซ์ อาดูริซ, เมเหม็ด โทปาล 


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ระบบ 4-3-3 
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 
กองหลัง : ราฟาเอล ดา ซิลวา (จอห์น โอเชีย น.90), เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า 
กองกลาง : ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, แอนเดอร์สัน (ชิชาริโต้ น.77) 
กองหน้า : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ( เฟเดอริโก้ มาเชด้า น.85), หลุยส์ นานี่, ปาร์ค จี ซอง
สำรอง : ดาร์รอน กิ๊บสัน, ชิชาริโต้, โทมัส คูสซ์แซ็ค, เฟเดอริโก้ มาเชด้า, จอห์น โอเชีย, ไมเคิ่ล โอเว่น, คริส สมอลลิ่ง 


ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง 
สเปอร์ส (อังกฤษ) 4:1 ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์) 
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 4:0 แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน) 
ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 1:3 ลียง (ฝรั่งเศส) 
ชาลเก้ (เยอรมัน) 2:0 เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 
บาเลนเซีย (สเปน) 0:1 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1:0 บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี) 
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 1:1 บาร์เซโลน่า (สเปน) 
พานาธิไนกอส (กรีซ) 0:2 เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)




        
                                 
บาเลนเซีย 0:1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

วันพุธที่ 29 กันยายน 2553

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011

ป๋ากระสันเห็นริโอลงเล่นถาวร

เซอร์แฮปปีผีบุกเชือดค้างคาว

เซอร์สรรเสริญเอร์นานเดซสุดยอดตัวจบสกอร์


  เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดีใจจนหน้าบาน หลังเห็น ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หัวหอกจังโก้ ตะบันประตูชัย เกมชนะ บาเลนเซีย 1-0 ศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม ซี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมยกย่อง เป็นสุดยอดตัวจบสกอร์อย่างแท้จริง

     เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โคตรทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อดใจไม่ไหวต้องออกมากล่าวสรรเสริญเยินยอ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเม็กซิโก หลังซัดประตูชัย ในแมตช์บุกเฉือน บาเลนเซีย 1-0 ที่สนาม เมสตาย่า ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ซี เมื่อวันพุธที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา

     ดาวเตะเจ้าของฉายา "ถั่วน้อย" ลงเล่นเป็นตัวสำรองในแมตช์ดังกล่าว และสวมบทฮีโร่ ยิงประตูในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ส่งผลให้ "ปีศาจแดง" เก็บชัยชนะได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เนื่องจากตลอดทั้งเกม "ไอ้ค้างคาว" มีโอกาสยิงประตูมากมาย แต่ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายผู้มาเยือนได้

     เซอร์ เฟอร์กี้ กล่าวชม ดาวเตะวัย 22 ปีว่า "เขาเป็นตัวจบสกอร์ที่สุดยอดจริงๆ เขาลงมาก็สามารถทำประตูได้ทันที มันเป็นธรรมชาติของเขา เขาเต็มไปด้วยความรวดเร็ว และฉลาดหลักแหลม สร้างปัญหาให้กับพวกเขาได้พอสมควร"

     นอกจากนี้ กุนซือเลือดสกอตต์ ยังยอมรับว่า นี่เป็นชัยชนะที่สำคัญมากสำหรับทีมจริงๆ "ผมคิดว่า มันเป็นชัยชนะที่สำคัญมาก แน่นอน บาเลนเซีย และเรา เป็นทีมเต็งก่อนลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งการได้ชัยชนะเหนือพวกเขาเป็นสิ่งที่สำคัญจริงๆ ผมคิดว่า สกอร์ 1-0 เป็นผลการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมสำหรับเรา เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาเยือนที่นี่ เรามีสถิติที่แย่มานานในสเปน มันเป็นเรื่องดีที่ชนะ"

     ขณะเดียวกัน เฟอร์กูสัน ได้กล่าวชื่นชมผลงานของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ คู่หูของ เนมานย่า วิดิช ที่ลงเล่นเกมรับร่วมกันเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ว่า "นี่เป็นเกมการแข่งขันจริงสำหรับเขา ประสบการณ์ของเขาช่วยเหลือทีมได้ ไม่มีอะไรต้องสงสัยในเรื่องนี้  เขากลับมาสู่แนวทางของเขาแล้ว นั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก หวังว่าตอนนี้ เขาคงไม่เจ็บอีกต่อ

เครดิต สยามกีฬา

โพลผู้ดียี้รูนี่ย์เห็นหน้าแล้วไม่อยากซื้อของ


วงการโฆษณาอาจต้องเมินใช้บริการ เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกคาวโลกีย์ขวัญใจคุณตัว เป็นนายแบบซะแล้ว โพลผู้ดีชี้ผู้บริโภคยี้หัวหอก "ปีศาจแดง" อย่างสุดๆ บอกเห็นหน้าแล้วไม่อยากซื้อของที่เจ้าตัวเป็นพรีเซนเตอร์ ตามมาติดๆ ด้วยเจ้าเก่า แอชลี่ย์ โคล แบ็กซ้ายกามฉกรรจ์ ผู้เคยทำ เชอรีล โคล นักร้องสุดเอ็กซ์ น้ำตาแตกมาแล้ว
     เวย์น รูนี่ย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ สังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกเป็นข่าวอาจจะต้องถูกขึ้นบัญชีดำในวงการโฆษณาเสียแล้ว หลังจากที่ชื่อเสียงแปดเปื้อนคาวกาม กรณีแอบนอกใจภรรยาสุดที่รักไปทะลวงประตูสวรรค์หรรษาของสาวขายบริการเมื่อปีที่แล้วในช่วงที่ คอลีน กำลังตั้งครรภ์ ไค ลูกชายคนแรกของทั้งคู่ ตามรายงานจาก "เดลี่ สตาร์" หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ดังเมืองผู้ดี เมื่อวันพุธที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา

     ผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคในประเทศสหราชอาณาจักรกว่า 49 เปอร์เซ็นต์ ระบุว่าไม่กระหายที่จะซื้อสินค้าที่หัวหอก "ปีศาจแดง" วัย 24 ปี เป็นนายแบบโฆษณาหรือมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเลยสักนิด หลังจากทราบข่าวพฤติกรรมคลั่งเซ็กซ์ไปเล่นเสียวกับคุณตัวของเจ้าตัว โดย รูนี่ย์ ติดอันดับ 1 ของโพลในหัวข้อคนเด่นคนดังที่ชักจูงใจให้ปรารถนาจะซื้อสินค้าได้น้อยที่สุด ขณะที่มีเพียง 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่บอกว่าเห็นหน้าสามีของ คอลีน แล้วอยากจะซื้อของเสียเหลือเกิน

     โพลดังกล่าวถือเป็นข่าวร้ายสำหรับ ไนกี้ เครื่องกีฬาดังระดับโลก, โนเกีย โทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ของโลก และ โคคา-โคล่า เครื่องดื่มน้ำอัดลมยอดนิยม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้สินค้าเหล่านี้จำต้องตัดใจตัดหาง รูนี่ย์ ไปในที่สุดก็เป็นได้

     คลาร์ก เทอร์เนอร์ ตัวแทนจากเว็บไซต์การตลาด "ยูทอล์คมาร์เก็ตติ้งดอตคอม" (UTalkMarketing.com) กล่าวว่า "มันแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่อ่อนไหวระหว่างตราสินค้ากับคนดังๆ คนเด่นคนดังทั้งหลายอาจจะช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าชื่อเสียงของพวกเขามีมลทินไปเสียแล้ว ผู้บริโภคก็อาจจะเมินหน้าหนีไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน" 

     สำหรับคนดังยอดยี้อันดับ 2 ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจไม่ซื้อสินค้าของผู้บริโภคเมืองผู้ดีก็คือ แอชลี่ย์ โคล กองหลังจอมเจ้าชู้ของ เชลซี วัย 29 ปี ซึ่งเพิ่งจะหย่าร้างแยกทางกับ เชอรีล โคล นักร้องสาวสุดเซ็กซี่ ตามมาด้วยอันดับ 3 ร่วมกัน คือ นาโอมิ แคมป์เบลล์ นางแบบผู้อื้อฉาว วัย 40 ปี และ เคที่ ไพรซ์ หรือ จอร์แดน นางแบบทรงโต วัย 32 ปี


เครดิต สยามกีฬา

เบนท์ขู่ผีเจอดีแน่

ข่าวดีรับปีใหม่!เดฟูร์รอไปผี



รายงานข่าวจากประเทศบ้านเกิดแอบอ้าง สตองดาร์ด ลีแอช ตัดใจยอมยก สเตเฟ่น เดฟูร์ สุดยอดจอมทัพให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ราคา 15 ล้านปอนด์ในเดือนมกราคมปีหน้า
ท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือปีศาจแดงถือเป็นแฟนพันธ์แท้เพลย์เมคเกอร์ทีมชาติเบลเยียมถึงขนาดเขียนจดหมายส่งคำอวยพรให้หายเจ็บมาแล้วระหว่างพักรักษาตัวเมื่อปีก่อน
สืบเนื่องจากทั้ง พอล สโคลส์ และ ไรอัน กิ๊กส์ เหลือสัญญาจนฤดูกาลนี้เท่านั้นทำให้ป๋าเฟอร์กี้ต้องหาตัวตายตัวแทนและไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือ เดฟูร์ นั่นเอง ขณะที่ ลีแอช ตกลงขายราคา 15 ล้านปอนด์ต้นปี 2011
_________________
#####
ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

ป๋าเผยเคล็ดลับคุมทีมคงกระพัน

Clip highlight Valencia 0 – 1 Manchester United +ภาพสวยๆ






 

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก 2010/2011




รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง


 

 


สนาม : เมสตาย่า สเตเดี้ยม, สเปน
ผู้ตัดสิน : วิคเตอร์ คาสไซ (ฮังการี)
เวลาเตะ : 01:45 น.
ถ่ายทอดสด : ช่อง 3
ผู้ทำประตู: ชิชาริโต้ น.85


      ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก วันพุธที่ 29 กันยายน 2553 บาเลนเซีย เปิดรังเมสตาย่า สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด! เจ้าถิ่น ได้รับข่าวดี ฆวน มานูเอล มาต้า กองกลางตัวเก่งผ่านความฟิตกลับมาลงสนาม โรเบร์โต้ โซลดาโด้ ยืนเป็นหน้าเป้า ขณะที่ทีมเยือน แมนยู จะไม่มี เวย์น รูนีย์ ดาวยิงคนสำคัญ รวมทั้ง ไรอัน กิ๊กส์ ปีกจอมเก่า ที่มีอากการบาดเจ็บรบกวน

      ครึ่งแรก
      บาเลนเซีย เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นบุกจากซ้ายไปขวา เป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ได้ลุ้นในนาทีที่ 4 จากจังหวะลองสับไกของ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ บอลหลุดกรอบออกหลัง

     บาเลนเซีย ได้ลุ้น! ในนาทีที่ 16 ไมเคิ่ล คาร์ริค เล่นพลาดจิ้มบอลไปเข้าทาง ปาโบล เฮอร์นานเดซ ยิงไกลจากนอกกรอบ บอลโด่งข้ามคาน

      นาทีที่ 33 แมนยู ได้ลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งซ้าย จากจังหวะที่ คาร์ริค โดนเหนี่ยวล้มลง นานี่ เปิดเข้ามาในเขตโทษจะให้เพื่อนร่วมทีมแนวรับบาเลนเซีย โขกสกัดออกมาได้

     เกมยังขาดๆ เกินๆ แมนยู มีจังหวะบุกแต่ยังจบไม่ได้ ขณะที่เจ้าถิ่น บาเลนเซีย เปอร์เซ็นต์ครองบอลนั้นต้องบอกว่ามากกว่า แต่ยังพลาดในจังหวะสุดท้าย ผู้ตัดสินเป่านกหวีดจบครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมยังเสมอกันอยู่ที่ 0:0

      ครึ่งหลัง
      เขี่ยลูกเริ่มเกมในครึ่งหลัง ทั้ง 2 ทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น บาเลนเซีย ได้ลุ้นในนาทีที่ 49 ปาโบล เฮอร์นานเดซ ลากตัดจากขวาเข้าเขตโทษ ก่อนจะบอลหลุดเสาไกล ออกหลัง ฟาน เดอร์ ซาร์ ถึงกับต้องออกมาโวยเพื่อน!!

      แมนยู ได้ลุ้น! ในนาทีที่ 56 เฟล็ทเชอร์ วางบอลยาวถ่างออกซ้าย เบอร์บาตอฟ ทำสิ่งที่หลายคนคาดไม่ถึง! สปีดพาบอลหนีตัวประกบเข้าไปในเขตโทษดีดด้วยซ้ายติด เซซาร์ ซานเชซ ออกหลัง

      นาทีที่ 69 บาเลนเซีย ขึ้นเกมมาทางซ้าย! เฌเรมี่ มาติเยอ เติมเกมขึ้นมาเปิดผ่านเข้ากลางจะให้ โรเบร์โต้ โซลดาโด้, เฟอร์ดินานด์ อ่านขาดชิงสกัดออกไปได้ก่อน

      บาเลนเซีย ทำเกมได้เหนือกว่าแมนยู! นาทีที่ 74 บอลจากริมเส้นฝั่งขวาเปิดเข้ามาในเขตโทษ โซลดาโ้ด้ เทคตัวสะบัดโขกบอลหลุดออกหลังอย่างได้ลุ้น!

      แมนยู เกือบได้ประตูขึ้นนำ! นาทีที่ 80 เฟล็ทเชอร์ ถ่างบอลออกขวา นานี่ แตะหาจังหวะเปิดข้ามมาที่เสาไกล ชิชาริโต้ ตัวสำรองที่เพิ่งเปลี่ยนลงเข้าชาร์จชนเสา

     กลายเป็นแมนยู ที่บุกน้อยกว่าได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 85 นานี่ จ่ายจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาใน กิโก้ มาเชด้า ได้บอลตรงบริเวณมุมเขตโทษ ผ่านต่อเข้ากลาง ชิชาริโต้ เกี่ยวเข้าซ้ายยิงเร็วส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายอย่างสวยงาม! แมนยู ขึ้นนำ 1:0

      ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีการทำประตูเพิ่ม! แมนยู บุกมาเอาชนะ บาเลนเซีย ไปได้ด้วยสกอร์ 3:1 คว้า 3 คะแนนสำคัญขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บาเลนเซีย: ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : เซซาร์ ซานเชซ
กองหลัง : ดาบิด นาบาร์โร่, หลุยส์ มิเกล, เฌเรมี่ มาติเยอ, เฮ้ดวิกส์ มาดูโร่
กองกลาง : อัลเมด้า (เมเหม็ด โทปาล น.88), ปาโบล เฮอร์นานเดซ, ติโน่ คอสต้า (มานูเอล เฟอร์นานเดส น.73), ฆวน มาต้า
กองหน้า : โรเบร์โต้ โซลดาโด้, อเลยานโดร โดมิงเกซ (อาริทซ์ อาดูริซ น.59)
สำรอง : มานูเอล เฟอร์นานเดส, บรูโน่ ซัลตอร์, มิเกล อังเคล โมย่า, ริคาร์โด้ คอสต้า, โซฟิยาน เฟกูลี่, อาริทซ์ อาดูริซ, เมเหม็ด โทปาล


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : ราฟาเอล ดา ซิลวา (จอห์น โอเชีย น.90), เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า
กองกลาง : ไมเคิ่ล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, แอนเดอร์สัน (ชิชาริโต้ น.77)
กองหน้า : ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ( เฟเดอริโก้ มาเชด้า น.85), หลุยส์ นานี่, ปาร์ค จี ซอง
สำรอง : ดาร์รอน กิ๊บสัน, ชิชาริโต้, โทมัส คูสซ์แซ็ค, เฟเดอริโก้ มาเชด้า, จอห์น โอเชีย, ไมเคิ่ล โอเว่น, คริส สมอลลิ่ง


ผลฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง
สเปอร์ส (อังกฤษ) 4:1 ทเวนเต้ (ฮอลแลนด์)
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 4:0 แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมัน)
ฮาโปเอล เทลอาวีฟ (อิสราเอล) 1:3 ลียง (ฝรั่งเศส)
ชาลเก้ (เยอรมัน) 2:0 เบนฟิก้า (โปรตุเกส)
บาเลนเซีย (สเปน) 0:1 แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
กลาสโกว์ เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์) 1:0 บูร์ซาสปอร์ (ตุรกี)
รูบิน คาซาน (รัสเซีย) 1:1 บาร์เซโลน่า (สเปน)
พานาธิไนกอส (กรีซ) 0:2 เอฟซี โคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก)




วันพุธที่ 29 กันยายน 2553



บาเลนเซีย 0:1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

































วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

โอเว่น ดีขึ้นเรื่อยๆ


ไมเคิล โอเว่น เริ่มมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามความเห็นของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

โอเว่น อดีตศูนย์หน้าลิเวอร์พูล, รีล มาดริด และนิวคาสเซิ่ล ย้ายมาร่วมเล่นในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ ปี 2009 ด้วยกิตติศัพท์อดีตศูนย์หน้าที่ดีที่สุดคนหนึ่งของทีมชาติอังกฤษ

แนวรุกของแมนฯ ยูไนเต็ด ถือเป็นชุดนักเตะที่แข็งแกร่งชุดหนึ่งในอังกฤษ อย่างไรก็ดี โอเว่นซึ่งตอนนี้มีอายุ 30 ปีแล้วต้องพยายามสร้างความประทับใจในการลงเล่นในฐานะตัวสำรอง เขาลงเล่นในฐานะตัวสำรอง 24 นัดจากทั้งหมด 37 นัด แต่แม้ว่าในขณะนี้โอเว่นจะยังไม่มีชื่อใน 11 ตัวจริงของทีม แต่นายใหญ่ทีมปีศาจแดงก็เชื่อว่าเขาจะมีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

"เขาเป็นนักฟุตบอลที่โดดเด่น และผมคิดว่าเขาพัฒนาขึ้นนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม"

การโชว์ฟอร์มฮีโร่ครั้งล่าสุดของโอเว่นเกิดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจากลูกโหม่งตีเสมอของเขาในรีบ็อค สเตเดี้ยม ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ดเก็บ 1 แต้มสำคัญมาได้ แต่เซอร์ อเล็กซ์ ก็ยังแบ่งรับแบ่งสู้ว่าจะส่งศูนย์หน้าผู้นี้ลงสนามในเกมที่พบกับบาเลนเซีย หรือไม่

"การมีส่วนร่วมสำคัญของไมเคิลในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะไม่ถูกมองข้าม มันเป็นประตูที่ยอดเยี่ยม เขาฟิตสมบูรณ์ดี และฟอร์มในการซ้อมของเขาก็เยี่ยมมาก"

คาดกันว่าดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ จะได้ลงเล่นในแดนหน้าในระบบ 4 - 5 - 1 แต่ไม่แน่โอเว่นอาจได้เริ่มเล่นตั้งแต่ต้นเกม หรือบางทีอาจเป็นศูนย์หน้าดาวรุ่งอย่างมาเชด้า หรือ ชิชาร์ริโต้ ซึ่งก็อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เซอร์ อเล็กซ์ เลือกก็เป็นได้

เครดิต โอปอล

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

กุนซือค้าวคาวยันเคารพแต่ไม่เคยกลัวผี



ยูนาย เอเมรี่ กุนซือคนเก่งของบาเลนเซียยืนยันว่าให้ความยำเกรงแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเต็มที่ แต่ก็ไม่เคยกลัว"ปีศาจแดง"เลยเช่นกัน แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดต้องบุกมาเยือนบาเลนเซียที่เมสตาญ่า ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สอง ในขณะที่"ค้างคาวสีส้ม"ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นเลยในฤดูกาลนี้

"
เรามีความคาดหวังสูง เรากำลังรอคอยเกมนี้เพราะเรามั่นใจว่าเราสามารถทำได้ดี เราเข้าใจว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคือคู่แข่งที่น่ากลัว โดยไม่ต้องดูผลการแข่งขันนัดที่ผ่านมาของพวกเขา"

"
เราให้เกียรติพวกเขาเสมอ แต่เราก็ไม่กลัวพวกเขาเลยนะ"

"
มันเป็นความท้าทายสำหรับเรา ทั้งในเกมพรุ่งนี้และในเวทีแชมเปียนส์ลีก ทีมของผมได้แสดงให้เห้นแล้วว่าพวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง และวิธีจะเอาชนะพวกเขาได้คือจะต้องไม่ขัดขวางความสามารถของพวกเขาให้ได้"
_________________


#####
ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####

ภาพการซ้อมของปีศาจแดงที่สนามเมสตัลย่า สเปน

เรื่อง: ภาพการซ้อมของปีศาจแดงที่สนามเมสตัลย่า สเปน



ดูทั้งหมดได้ที่
http://www.redarmyfc.com/images473.html

และ
http://www.gettyimages.com/Search/Search.aspx?EventId=104088696&EditorialProduct=Sport

มันแปลกที่ไม่เห็นอันแดร์สันยิ้มเผล่อย่างเคย


จาก manutd.com

เครดิต mifoo